เครื่องจักรกลการเกษตร ประเทศไทย
ด้วยการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ เครื่องจักรกลการเกษตรได้กลายเป็นกุญแจสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดความเข้มข้นของแรงงาน
วัสดุของเครื่องจักรกลการเกษตรต้องสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมการทำงานที่รุนแรง เช่น อากาศเปิด สภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น ชื้น และสกปรก รวมถึงผลกระทบการกัดกร่อนจากการสัมผัสกับดิน ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อุจจาระ พืชเน่า และน้ำ . ดังนั้นวัสดุของเครื่องจักรกลการเกษตรควรมีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อน ทนต่อการสึกหรอ ลดแรงเสียดทาน ทนต่อแรงกระแทก และต้านทานความล้า ในเวลาเดียวกัน ต้นทุนควรต่ำ และวัตถุดิบควรขึ้นอยู่กับทรัพยากรในประเทศ
ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรต้องการคุณสมบัติอะไรบ้าง?
1. ความทนทาน: เครื่องจักรกลการเกษตรมักจะทำงานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น โคลน ฝุ่น และความชื้น ดังนั้นชิ้นส่วนจึงจำเป็นต้องมีความทนทานสูงและอายุการใช้งานยาวนาน
2. ความแข็งแรงสูง: เครื่องจักรกลการเกษตรต้องรับน้ำหนักมากในระหว่างการใช้งาน ดังนั้นชิ้นส่วนจะต้องมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับน้ำหนักเหล่านี้ได้
3. ความต้านทานการกัดกร่อน: เนื่องจากเครื่องจักรกลการเกษตรมักถูกสัมผัสกลางแจ้งและสารเคมี (เช่น ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง) ชิ้นส่วนจึงต้องมีความต้านทานการกัดกร่อนที่ดี
พวกเราทำอะไร?
1. การประมวลผลส่วนประกอบที่มีความแม่นยำสูง
เครื่องมือเครื่อง CNC ขั้นสูงใช้เพื่อประมวลผลส่วนประกอบสำคัญของเครื่องปลูกและเครื่องเก็บเกี่ยวอย่างแม่นยำ เพื่อให้มั่นใจว่าส่วนประกอบต่างๆ ตรงกันและมีเสถียรภาพในการทำงาน
2. การออกแบบที่มีความแข็งแรงสูง
ชิ้นส่วนทั้งหมดทำจากเหล็กโลหะผสมที่มีความแข็งแรงสูง และผ่านกระบวนการอบชุบด้วยความร้อนที่แม่นยำ จึงมั่นใจได้ถึงความเสถียรและความน่าเชื่อถือของชิ้นส่วนภายใต้ภาระหนักสูง
3. การรักษาพื้นผิว
ใช้เทคโนโลยีการรักษาพื้นผิวขั้นสูง เช่น อโนไดซ์ การชุบด้วยไฟฟ้า การทาสี ฯลฯ เพื่อเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนของชิ้นส่วน การชุบด้วยไฟฟ้า เช่น การชุบสังกะสี การชุบโครเมี่ยม หรือการพ่นสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อน เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของความชื้น ดิน และปุ๋ยเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การแปรรูปวัสดุที่ทนต่อการสึกหรอ
เพื่อตอบสนองต่อข้อกำหนดด้านความต้านทานการสึกหรอในการทำงานทางการเกษตร จึงมีการใช้วัสดุพิเศษและเทคโนโลยีการชุบแข็งพื้นผิวเพื่อปรับปรุงความทนทานของส่วนประกอบทางกล